สมองเงินล้าน #3 อย่าคอยวาสนา



อย่าคอยวาสนา
        ถ้าเราไม่ได้เกิดมาร่ำรวย  เพื่อนๆว่าเราจะสามารถร่ำรวยได้ไหมครับ  หากตอนนี้เพื่อนๆยังลังเล  ลองดูชีวิตที่ไม่คอยวาสนาของ คุณตัน  ภาสกรนที  หรือที่เรารู้จักกันในนาม  ตัน  โออิชิ

        ถ้าเราลองศึกษาประวัติของคุณตัน  เราจะรู้ว่าเขาไม่ได้เกิดมาร่ำรวยเลย  เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน  เริ่มสร้างทุกอย่างจากจุดที่เรียกว่าศูนย์  ถึงแม้เส้นทางบนสายธุรกิจของเขาจะเริ่มจากการเป็นพนักงานขายของ  แบกของ กินเงินเดือนไม่ถึงพันบาท


        ในที่สุดก็ก้าวสู่การบริหารธุรกิจระดับพันล้านในเครือ โออิชิกรุ๊ป  โดยกลยุทธ์ทางการตลาดของเขาไม่ได้มีปริญญาด้านการตลาดจากสถาบันใดมาการันตี  แต่เขาเป็น นักธุรกิจ ที่เป็นทั้ง  นักคิด นักถาม นักวางแผน นักการตลาด  ที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายธุรกิจได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร

        จากพนักงานกินเงินเดือนไม่กี่ร้อยบาท  จนมีอาณาจักภายใต้แบรนด์โออิชิสู่ความเป็นมหาชน  คุณตัน  พูดถึงจุดเริ่มต้นของเขาว่าเป็นจุดที่ใครๆ  ก็เริ่มต้นได้  เพราะแท้จริงแล้วทุกคนมีต้นทุนอยู่ในตัว  คุณตัน  ภาสกรนที  จึงเป็นอีกหนึ่งชีวิตของคนสู่งาน  ที่ยืนยันว่าความสำเร็จไม่ได้หล่นจากฟ้า  แต่มาจากสมอง  สองมือ  และหนึ่งใจ  ที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของตัวเราเองที่เกิดกับใครก็ได้!

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ


แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ


ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล


สมองเงินล้าน #2 อย่าหมิ่นเงินน้อย



อย่าหมิ่นเงินน้อย
        หลักคิดสำคัญต่อมาของเหล่าเศรษฐีทั้งหลายก็คือต้องไม่หมิ่นเงินน้อย  อย่าง ดร.สมไทย  ที่ผมได้เล่าให้เพื่อนๆฟังไปแล้ว  เมื่อครั้งแรกที่เขาได้ลงทุนกับธุรกิจเก็บขยะเขาได้เงินเพียง  800  บาท  หากวันนั้นเขาภาคภูมิใจกับเงินเพียงหลักร้อย  เราก็คงจะไม่มีเจ้าพ่อธุรกิจพันล้านแน่นอน

        เคยฟังนิทานเรื่องเบิ้มแนวใหญ่กับจ้อยแมวเล็กไหมครับเพื่อนๆ  เรื่องนี้เป็นเรื่องของแมวสองตัวซึ้งเป็นเพื่อนรักกัน  วันหนึ่งพวกมันพากันไปตกปลาทำอาหารเย็น  เบิ้มมีเบ็ดคันใหญ่กับถังน้ำใบใหญ่  จ้อยมีเบ็ดคันเล็กกับถังน้ำใบเล็ก  เบิ้มตั้งใจจะตกปลาตัวใหญ่ให้ได้เท่านั้น


        เมื่อเบิ้มตกได้ปลาตัวเล็กก็ปล่อยไป  ในขณะที่จ้อยไม่สนใจว่าจะตกได้ปลาตัวเล็กหรือตัวใหญ่  จนเวลาผ่านไปถึงบ่าย  เบิ้มก็ยังตกปลาไม่ได้  ส่วนจ้อยตกปลาได้หลายตัว  เบิ้มจึงเปลี่ยนใจว่าถ้าตกได้ปลาตัวเล็กอีกก็จะเก็บไว้  แต่จนถึงเวลาเย็น  เบิ้มก็ยังตกปลาไม่ได้เลย  เบิ้มได้แต่เสียใจและโทษตัวเองที่ไม่ยอมเก็บปลาตัวเล็กไว้  ในขณะที่จ้อยตกได้ปลาตัวเล็กหลายตัวเกิดความสงสาร  จึงแบ่งปลาในถังให้กับเบิ้ม

        หากอยากรวยเราควรทำตัวให้เป็นจ้อย  เพราะเมื่อใดที่เราอยากเป็นเบิ้ม  เราก็จะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ซึ้งอาจจะทำให้เกิดสิ่งใหญ่ๆ ขึ้นได้

        ความร่ำรวยเงินทองสามารถสร้างได้ด้วยหนึ่งสมองกับสองมือ  ถึงแม้เราจะทำธุรกิจขนาดเล็ก  ที่เก็บเงินได้ครั้งละ  20-30  บาทก็ตาม  แต่อย่าลืมว่าเป็นล้านหรือ  100  ล้าน  พันล้าน  ก็ล้วนต้องเก็บจากหนึ่งบาทเสมอ

        แนวคิดในการสร้างธุรกิจของแต่ล่ะคนแตกต่างกันออกไป  แต่ถ้าเราทำธุรกิจที่รัก  ทำด้วยใจและมุ่งมั่นสูง  จะทำให้ธุรกิจรุ่งเรืองและมั่นคงได้  จงจำไว้ครับว่าเงินทองหรือความร่ำรวยไม่ได้อยู่ไกลมือของเราเลย  ถ้าเรามองเห็น  ตาถึง  ก็จะเข้าใจ  และเข้าถึงจุดแห่งความรํ่ารวยเงินทองได้

ขอขอบคุณภาพจาก>>kidsquare.com

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ
และเรื่องต่อไปที่ผมจะนำมาฝากเพื่อนๆ คงจะเดากันออกแล้วสินะครับรอติดตามชมกันได้เลยครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ


ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล


สมองเงินล้าน #1 อย่าอายทำกิน


อย่าอายทำกิน
        เพื่อนๆเชื่อไหมครับว่า  อาชีพเก็บขยะที่ใครๆมองว่าน่ารังเกียจจะสามารถสร้างรายได้ให้คนเราเป็นเศรษฐีได้

        ความคิดแรกของคนที่จะเป็นเศรษฐีได้  ต้องไม่รังเกียจอาชีพสุจริตทุกอย่าง  การไม่อายทำกิน  หมายความว่าเราไม่ดูถูกงานทุกงานที่สุจริต  เพราะไม่ว่างานใดหากเราทำด้วยความพยายามและตั้งใจ  งานนั้นก็สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้เราได้เหมือนกัน


        ดร.สมไทย  วงษ์เจริญ  ผู้นำวงการขยะรีไซเคิลของเมืองไทย  ได้เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเพียง  1,000  บาท  แต่วันนี้กิจการเติบโตขึ้นถึงหนึ่งล้านเท่า  เป็นธุรกิจพันล้านที่มีคนเกี่ยวข้องในธุรกิจนี้นับล้าน  กิจการของ  ดร.สมไทย  คือการนำทุกสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการมาคัดแยกเพื่อรีไซเคิลนำกลับมาใช้ใหม่  นำสิ่งไร้ค่าที่ถูกทิ้ง  หลอมรวม  แปรรูปให้เกิดมูลค่าอีกครั้ง


        ดร.สมไทย  เริ่มต้นธุรกิจนี้ด้วยแนวคิดที่ว่า  ขยะคือทองคำ  ตอนแรก  ดร.สมไทย  มองว่าขยะคือของเน่าเสีย  การเก็บขยะเป็นอาชีพที่คนรังเกียจ  แต่เมื่อทำแล้วมันได้เงิน  และเพิ่มทวีมากขึ้นจาก  400  เป็น  800  จากร้อยเป็นล้าน  จากร้อยล้านเป็นพันล้านอย่างในปัจจุบัน

        จากชีวิตพ่อค้าที่ตระเวนขายของตามงานวัด  ดร.สมไทย  ได้ก้าวสู่ธุรกิจที่ไม่มีใครคาดถึง  เริ่มต้นจากการรับซื้อของเก่าแล้วนำไปขาย  จนบัดนี้เขากลายเป็นนักธุรกิจพันล้าน  ที่สามารถสร้างโรงงานคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลที่ทันสมัย  และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  บนเนื้อที่  6  ไร่  ในจังหวัดพิษณุโลก  และยังสามารถรองรับปริมาณขยะได้  80,000-100,000  กิโลกรัมต่อวันทั้งยังได้รับปริญญาดุษฏีกิตติมศักดิ์  สาขาบริหารธุรกิจ  จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม  อีกด้วย

        การไม่อายทำงานไม่ได้หมายความว่าเราจะเลือกทำอาชีพใดก็ได้  แต่ต้องวางอยู่บนพื้นฐานของความสุจริต  หากเราไปโกงเขามาเพื่อให้ร่ำรวย  ก็ไม่ใช้ความร่ำรวยอย่างยั่งยืน

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ

ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล



การทำธุรกิจ “แฟรนไชส์”


การทำธุรกิจ แฟรนไชส์
        การเริ่มทำธุรกิจ แฟรนไชส์ นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและได้รับความนิยม  หากเราจะเริ่มทำธุรกิจแฟรนไชส์  ก็ควรจะเริ่มอะไรที่เล็กๆ  และง่ายๆ  คนทั่วไปซื้อหาได้  ผมขอยกตัวอย่างหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากก็คือ  การทำร้านกาแฟ  เพราะใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก  ประมาณ  20,000-30,000  บาท  ก็พอจะเริ่มธุรกิจได้  ที่สำคัญต้องเรียนรู้ฝึกฝนการทำกาแฟเองด้วย  ต่างจากแฟรนไชส์ประเภทอื่นๆ  ที่ต้องมีทุนและมีความรู้ความสามารถ  เช่น  แฟรนไชส์ร้านขายยา  แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 เป็นต้น

        ถึงร้านกาแฟจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก  แต่ธุรกิจนี้ข้อดีคือสามารถเก็บเงินสดๆ  ได้ในทุกๆ  วัน  (ถ้าเราเปิดร้านทุกวันนะครับ)  การขายกาแฟแต่ละแก้วถึงจะเก็บเงินได้แค่  20-40  บาท  ก็ตาม  แต่ถ้ายอดขายของเราสามารถขายได้มากพอในหนึ่งวัน  จำนวนเงินก็จะเพิ่มตาม  จากสิบเป็นร้อย  จากร้อยเป็นพัน  จากพันเป็นหมื่นเป็นแสน  และเป็นล้านในที่สุด

        นี่คือธุรกิจแห่งความร่ำรวยอย่างหนึ่ง  ที่สามารถสร้างได้ด้วยมือของตัวเอง  เราอาจจะเป็นผู้ขายเองหรือจ้างพนักงานขายก็สามารถทำได้  ขึ้นอยู่กับวิธีการรวมถึงความสามารถในการบริหารและการจัดการที่ชาญฉลาดของแต่ละคน  ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า  ใครที่ทำร้านกาแฟสดแล้วจะได้เงินล้านหรือได้เงินร้อยนั่นเอง

        คงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนที่เลือกทำธุรกิจร้านกาแฟสดแล้วรวยกันหมดหรือขายได้เงินเป็นล้านกันทุกคน  ธุรกิจทุกชนิดมีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว  ร้านกาแฟสดก็เช่นเดียวกัน  ขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละบุคคล  สินค้าเหมือนกันแต่คนขายต่างกัน  ความสำเร็จก็ย่อมแตกต่างกันออกไป

        ที่สำคัญคือ  ความแปลกใหม่  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดข้อหนึ่งของการทำธุรกิจ  ต้องทำร้านกาแฟสดแบบไม่ธรรมดา  สร้างจุดเด่นให้กับธุรกิจ  ในเมื่อสินค้าทุกอย่างดีมีมาตรฐานแล้วต้องรักษามาตรฐานทุกอย่างให้ได้คงที่  เติมไอเดียสร้างสรรค์  มีกลยุทธ์เทคนิคต่างๆ  ในการเอาชนะใจลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

หมายเหตุ เพื่อนๆสามารถติดตามชมบทความต่อไปที่มีความเกี่ยวเนื่องกับบทความนี้ได้  ในเรื่อง>> การทำ "ธุรกิจเครือข่าย"
แล้วพบกันใหม่ครับเพื่อนๆ

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ

ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล


ไอเดีย ในการสร้างธุรกิจใหม่


ไอเดีย ในการสร้างธุรกิจใหม่
        แนวคิดใหม่ๆ ในการทำธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองไม่ได้หมายถึง  การหาสินค้าหรือบริการที่ใหม่จนไม่มีใครคาดคิดมาก่อน  มาคิดทำ  เพราะมีโอกาสน้อยที่เราจะสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นสิ่งใหม่จริงๆ  ขึ้นมา  แต่อาจเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วแต่ได้นำมาปรับ  วิธีการ  หรือรูปแบบลักษณะในการดำเนินธุรกิจออกไป  ก็อาจจะกลายเป็นไอเดียที่คาดไม่ถึง

        ในต่างประเทศ  มีคนที่อายุน้อยๆ  ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างรวดเร็ว  เพราะความคิดเจ้าปัญญาของพวกเขา  และที่สำคัญแนวคิดนั้นต้อง  ไม่ผิดกฎหมายหรือผิดศิลธรรม  ตัวอย่างเช่น  ลามู  ยาละมันชัย  ซึ่งเป็น  นักศึกษาปริญญาตรีชาวอเมริกันได้ร่วมกับเพื่อนๆ  ในมหาลัยอิลลินอยส์ที่เรียนปริญญาตรีทางด้าน  Computer  Science  ได้ทำการก่อตั้ง  “Sponsor  Net  New  Media”  เป็นธุรกิจตัวแทนโฆษณาบนอินเตอร์เน็ตขึ้นมาในปี ค..  2004

        ลามู  ได้เห็นว่าระบบโฆษณาผ่านแบนเนอร์แบบเก่าๆ  อาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย  จึงได้สร้างระบบที่สามารถสร้างอัลบั้มรูปของบุคคลขึ้นมาแล้วใช้พูดคุยกัน  เกิดเป็นกลุ่มเพื่อนที่คอยอัพเดตข่าวสารของแต่ละคนทางอินเตอร์เน็ต  จึงได้เกิดเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง  ไฮไฟว์ (Hi 5)  ด้วยความคิดนี้ทำให้ลามู  กลายเป็นมหาเศรษฐีได้โดยใช้เวลาไม่นาน

        แต่แนวคิดในการทำธุรกิจที่ผมจะนำเสนอเพื่อนๆ  ไม่ใช้การคิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ  ที่เป็นเรื่องยากและซับซ้อนดังตัวอย่างของ  ลามู  ที่เป็นคนคิดค้นเอง  แต่เป็นตัวอย่างคร่าวๆ  ที่สามารถเอาไว้เป็นแนวทางในการสร้างธุรกิจได้อีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจ

หมายเหตุ เพื่อนๆสามารถติดตามชมบทความต่อไปที่มีความเกี่ยวเนื่องกับบทความนี้ได้  ในเรื่อง>> การทำธุรกิจ  แฟรนไชส์ 
แล้วพบกันใหม่ครับเพื่อนๆ

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ

ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล


การเริ่มทำธุรกิจที่ดีควรจะเริ่มอย่างไร


การเริ่มทำธุรกิจที่ดีควรจะเริ่มอย่างไร
        1.สร้างความเข้าใจว่า  เราคือ  นักขาย  โดยธรรมชาติ  ในช่วงแรกของการเริ่มทำธุรกิจ  ขอให้เราเริ่มงานในสายธุรกิจที่เรามีความคุ้นเคยไว้ก่อน  ซึ่งจะเป็นพื้นฐานให้เราพัฒนามันไปสู่ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

        ในการเริ่มทำธุรกิจหากเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจใดเลย  ก็ควรจะศึกษาจากผู้ที่เชี่ยวชาญเพื่อเป็นแบบอย่างก่อน  แล้วพยายามเรียนรู้ทุกอย่างให้มากพอ  ในที่สุดเราก็จะรู้ว่าไม่ว่าใครๆ  ก็สามารถทำธุรกิจได้  เพราะทุกคนจะมีพื้นฐานอยู่แล้วจากอาชีพที่เราเคยทำ

        คนที่เคยเป็นพ่อครัวในภัตตาคารโรงแรม  อาจจะคิดออกมาเปิดร้านอาหาร  แม้จะไม่ใช้การขายตรงๆ  แบบซื้อมาขายไปก็ตาม  เราอาจกำลังขายความคิด  ขายความสามารถ  ขายบริการในรูปแบบที่แตกต่างกันไป  นี่เป็นธรรมชาติของคนเราทุกคนที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักการ  ขาย อะไรสักอย่าง

        แต่การเริ่มต้นในการขายนั้น  หลายคนอาจยังยอมรับไม่ค่อยได้และมีทัศนคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับการขายของ  เพราะความไม่คุ้นเคย  อาจมีความรู้สึกว่าการขายของเป็นเรื่องน่ากลัว  ยากและไม่ถนัด  เมื่อความคิดของเราให้การปฏิเสธที่จะขายของก็เท่ากับว่า  เราล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น

        2.รู้ให้จริง  ว่าเราจะขายอะไร  
ถ้าจะเริ่มทำธุรกิจแล้ว  การรู้จักแยกแยะสิ่งที่เรากำลังจะขายกับสิ่งที่เห็นอยู่ภายนอกให้ออก  คือหัวใจของการจะทำธุรกิจให้สำเร็จ  เช่น  นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รวยเป็น  พันๆ  ล้าน ก็มักจะขายบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ในราคาที่สูงๆ  เพราะเขาสามารถ  ตอบสนอง  ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง  ไม่ว่าแพงแค่ไหนเขาก็ยินดีจ่ายเงินซื้อ

ยกตัวอย่าง  เวลาเพื่อนๆไปรับประทานอาหารที่ร้านประจำ  อาจจะเป็นเพราะว่าร้านนั้นมีอาหารที่เราชอบ  แต่เวลาไปกินอาหารที่ร้านจริงๆ  หลายคนแทบจะไม่ได้สั่งอาหารที่ชอบเลย  แต่กลับสั่งอาหารที่ตนเองไม่ได้ชอบมาทานเสียจนอิ่ม

        ธรรมชาติของการซื้อ  ทุกคนจะเลือกเสมอว่า  สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากน้อยแค่ไหน  และเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าจ่ายเงิน  หากเราจะเปิดธุรกิจอะไรก็ตาม  ขอให้เรารู้ว่าจะต้อง  กุมหัวใจ  หรือ  กุมความฝัน  ของลูกค้าไว้ให้ได้ก่อนต้องรู้ว่าลูกค้าฝันอยากจะได้อะไรจากเรา  หรืออยากจะมีความประทับใจอะไร  จงใช้กฎข้อนี้เป็นข้อคิดให้การหาสินค้าหรือบริการต่างๆ  ให้ลูกค้าพอใจและเราก็ต้องรู้เรื่องสินค้านั้นจริง  รับรองว่าธุรกิจนั้นจะไปได้สวยอย่างแน่นอน

        3.ต้องริเริ่มสิ่งที่ไม่เหมือนใคร
        การก้าวออกมาทำอะไรสักอย่างแล้วจะให้ประสบความสำเร็จเป็นผลดีนั้น  สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ  ความแปลกใหม่  ซึ่งเป็นเหตุผลของความสำเร็จที่ง่ายนิดเดียว  ก็คือ  การทำอะไรที่เหมือนๆ กับคนอื่น ผลที่ได้ก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก

        แต่ความยากของการทำธุรกิจนั้นไม่ว่าเราจะขายอะไร สิ่งสำคัญอยู่ที่  ความแปลกใหม่  ถ้าเราไม่คิดอะไรใหม่ๆมาเลย  ได้แต่เลียนแบบเขาหรือไม่ทำให้ดีกว่า  โอกาสที่เราจะทำสำเร็จก็อาจจะเป็นไปไม่ได้

        โลกแห่งการแช่งขันโดยเฉพาะงานด้านธุรกิจ  คนที่  ไม่เหมือนใคร  เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สร้างโอกาสแห่งความร่ำรวยได้มากกว่าการที่จะทำเพื่อ เพียงให้อยู่รอด  ดังนั้นไม่ควรทำอะไรที่เหมือนกับคนอื่น  และถ้าเราคิดที่จะริเริ่มสิ่งใหม่ๆ  ก็ไม่ต้องกลัว  เพราะโลกเราทุกวันนี้สามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าในวิทยาการต่างๆ  ขึ้นมาได้ล้วนเกิดจาก  ความคิด  (Idea)  เป็นพื้นฐาน  ไม่ใช้  ความรู้  (Knowledge)


          ไม่อย่างนั้นยอดนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่  20  อย่าง  อัลเบิร์ต  ไอน์สไตน์  คงไม่กล่าวประโยคทรงคุณค่าเอาไว้ว่า  จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ออกมาอย่างแน่นอน
       
หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ

ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล


เครื่องมือดี ยิ่งรวยเร็ว


เครื่องมือดี ยิ่งรวยเร็ว
        การที่คนเราจะรวยได้ไม่ได้อาศัยแค่ พลังใจ ความรู้ ความสามารถ หรือว่าโชคเท่านั้นที่สามารถพาเราให้ร่ำรวยได้  แต่ต้องมีวิธีการที่ดีแนวคิดที่ดี  มีวิธีการทำงานที่ชาญฉลาดนั่นคือ  เครื่องมือสำคัญ  ในการสร้างความร่ำรวย

        ลองนึกภาพกันดูนะครับเพื่อนๆ  ในขณะที่เรากำลังเก็บใบไม้เพื่อทำความสะอาดอยู่หน้าบ้าน  ถ้าเราใช้มือเก็บมันก็จะใช้เวลานาน  ทั้งๆที่เราเองก็เป็นคนขยัน  แต่ถ้ายังใช้มือเก็บอยู่ทีละใบสองใบ  เมื่อไหร่ละครับถึงจะเสร็จ  แต่ถ้าเรารู้จักใช้เครื่องมือมาช่วย เช่น ไม้กวาดทางมะพร้าว คราด  ซึ่งมีความสะดวกรวดเร็วและประหยัดเวลา  เพียงใช้เวลาไม่นานเราก็จะทำความสะอาดเสร็จ

        เพื่อนๆเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมครับ  เวลาเราเดินผ่านบ้านสวยๆ กว้างๆ  มีรถหรูๆหลายคัน  เป็นบ้านในฝันว่า  บ้านนี้เขาทำอะไรหนอ  ทำไมถึงมีทรัพย์สมบัติมากมาย  ร่ำรวยได้ถึงเพียงนี้

        ความเป็นจริงแล้วคนที่ร่ำรวยจากอาชีพสุจริตได้มีเพียงไม่กี่อาชีพครับ  เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะทางสูง  เช่น  แพทย์  วิศวกร  สถาปนิก  หรือปัจจุบันก็คงรวมอาชีพนักกีฬาเข้าไปด้วย  ซึ่งอาชีพเหล่านี้ต้องใช้ความยากลำบากเรียนรู้ฝึกฝน  บ่มเพาะจนเกิดความชำนาญ  หากใครจะบอกว่าอาชีพข้าราชการระดับสูงมีความมั่นคงพอมียศตำแหน่งสูงขึ้นก็สามารถร่ำรวยได้เช่นกัน  ก็คงไม่ผิดครับหากพวกเขาจะมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงและสุขสบาย  แต่ว่าอาชีพเหล่านี้ต้องใช้  เวลา  ในการสร้างความร่ำรวยนานเกินไป

        แต่มีอีกอาชีพหนึ่งที่ไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการบ่มเพาะหรือต้องเรียนรู้นาน  ก็สามารถทำให้คนร่ำรวยและประสบความสำเร็จได้  ก็คือการเป็น  นักธุรกิจ  ครับ  คนที่ทำธุรกิจเป็นและมีความชำนาญ  จะกลายเป็นผู้มีโอกาสร่ำรวยมากกว่าใครๆ  ในเหล่าอาชีพทั้งหมด  ไม่ว่าธุรกิจที่ลงมือทำนั้นจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

        การใช้เครื่องมือทำมาหากิน  หากใช้เครื่องมือที่สร้างรายได้  เดือนละ 1 หมื่น  เราก็จะมีรายได้  เดือนละ 1 หมื่น  แต่ถ้าใช้เครื่องมือที่สร้างรายได้  เดือนละ 1 ล้าน  เราก็จะมีรายได้เป็นล้าน  และถ้าหากคิดจะเริ่มต้นธุรกิจอะไรก็ตาม การเรียนรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด  การเลือกผู้นำที่ดีจะช่วยให้เราพัฒนาตนเองได้มากที่สุด

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ

ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง

ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล


ความรู้ที่ถูกต้อง


ความรู้ที่ถูกต้อง
        คำว่า  ความรู้ที่ถูกต้อง  มีความหมายเชิงลึกสามารถแบ่งได้เป็น  2  อย่างคือ  ความรู้ในเชิงวิชาชีพและความรู้ในด้านจิตใจ

        ความรู้ในเชิงวิชาชีพ  ทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถที่มีความเชี่ยวชาญอย่างน้อย  1  อย่าง  เพื่อจะเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินแม้แต่คนที่ทำอาชีพที่เรียกว่าต่ำต้อยอย่างเป็นแม่บ้าน  หรือคนกวาดถนน  เขาก็ต้องมีความชำนาญในงานที่ทำ  รู้ว่าควรจะทำอะไรตามลำดับก่อนหลัง  หากเป็นคนขายเสื้อผ้าก็ต้องรู้ความรู้เรื่องเสื้อผ้า  ขนาด  สไตล์  ส่วนคนที่เป็นหมอหรือทนายความ  ก็ต้องมีความรู้ในด้านการรักษาคนหรือข้อกฎหมายเป็นอย่างดี

        ความรู้ในเชิงจิตใจ  ผมขอแบ่งเป็น   3  ขั้นตอนคือ

1.ต้องรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน
        การที่เรารู้ว่าเราอยู่ที่ไหนหมายความว่า  เรารู้จักตนเองว่าเราเป็นคนอย่างไรทำอะไรอยู่  ปัจจุบันของเราเป็นอย่างไร  มีจุดเด่นจุดด้อยในด้านไหนบ้าง  และมีศักยภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน  เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจในตัวของเราเอง  และจะนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติตนทำตัวให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

2.รู้ความต้องการของตัวเองว่าจะไปไหน
        หมายถึงเป้าหมายในการทำงานหรือเป้าหมายในชีวิตของเรานั้นเป็นอย่างไร  คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนจะต้องมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้เสมอ  ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีการตั้งเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน  หากเราไม่มีเป้าหมายเราก็ต้องฝากชีวิตทั้งหมดของเราไว้ที่  ความบังเอิญและโอกาสลมๆ แล้งๆ  ซึ่งเราก็ไม่มีวันรู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไร

3.มีการวางแผนที่ชัดเจน
        มีคำกล่าวหนึ่งที่เพื่อนๆ ทุกคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า  คนที่วางแผนย่อมทำอะไรได้ไม่พลาด ส่วนคนที่พลาดมักจะทำอะไรโดยที่ไม่ยอมวางแผน  เรื่องนี้เป็นความจริงและไม่ต้องโทษใครว่าเป็นโชคร้ายหรือโชคดีเพราะมันเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน

        ผมยกตัวอย่างในหนังสือที่ผมเคยอ่านเล่มหนึ่งเขากล่าวไว้ว่า  อุบัติเหตุก้องโลกเกี่ยวกับเรือไททานิคที่ชนกับภูเขานํ้าแข็ง  ทำให้เรือจมและมีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากมายต้องเสียชีวิตในคราวนั้น  ลองตั้งสมมติฐานทั้งจากในภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ให้ดีๆแล้ว  เป็นเพราะว่าไม่มีการวางแผนการเดินเรือให้ดีพอ  และมีความเร่งรีบเกินไป  ในความพยายามที่จะทำสถิติเดินเรือให้เร็วที่สุด  เพื่อให้เป็นข่าวใหญ่ในอีกหนึ่งวันถัดมา

        ที่สำคัญมีการนำ  เรือบด  จำนวนมากออกไปจากดาดฟ้าเรือด้วยความประมาทกับคำกล่าวลือที่ว่า  เรือลำนี้ไม่มีวันจม  และรายละเอียดอื่นๆ  อีกนับไม่ถ้วนผลสุดท้ายก็ลงเอยอย่างที่หลายคนบอกว่า  โชคร้ายที่เรือดันไปชนกับภูเขาน้ำแข็ง

        การเดินทางใดๆ  ก็ตามหากเราต้องเดินทางไปกับคนนำทางที่ไม่มีรายละเอียดของแผนการเดินทาง  ไม่รู้ว่ามีทรัพยากรหรือเสบียงที่จะสามารถจัดหาได้หรือมีแผนการที่ดี  เราคงจะไม่มีวันเดินทางไปกับคนแบบนี้อย่างแน่นอน  เพราะมันเสี่ยงอย่างมากที่เขาจะพาเราหลงทาง  หรือไปประสบกับเคราะห์กรรม  เรื่องการวางแผนนี้ก็เช่นเดียวกัน  มันเปรียบเสมือนการเตรียมตัวพร้อมในทุกๆด้านเลยทีเดียว

หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ

แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ

ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล