คำว่า “ความรู้ที่ถูกต้อง” มีความหมายเชิงลึกสามารถแบ่งได้เป็น 2 อย่างคือ
ความรู้ในเชิงวิชาชีพและความรู้ในด้านจิตใจ
ความรู้ในเชิงวิชาชีพ
ทุกคนจำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถที่มีความเชี่ยวชาญอย่างน้อย 1 อย่าง
เพื่อจะเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินแม้แต่คนที่ทำอาชีพที่เรียกว่าต่ำต้อยอย่างเป็นแม่บ้าน หรือคนกวาดถนน
เขาก็ต้องมีความชำนาญในงานที่ทำ
รู้ว่าควรจะทำอะไรตามลำดับก่อนหลัง
หากเป็นคนขายเสื้อผ้าก็ต้องรู้ความรู้เรื่องเสื้อผ้า ขนาด
สไตล์ ส่วนคนที่เป็นหมอหรือทนายความ
ก็ต้องมีความรู้ในด้านการรักษาคนหรือข้อกฎหมายเป็นอย่างดี
ความรู้ในเชิงจิตใจ ผมขอแบ่งเป็น
3 ขั้นตอนคือ
1.ต้องรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน
การที่เรารู้ว่าเราอยู่ที่ไหนหมายความว่า
เรารู้จักตนเองว่าเราเป็นคนอย่างไรทำอะไรอยู่ ปัจจุบันของเราเป็นอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อยในด้านไหนบ้าง และมีศักยภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน
เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจในตัวของเราเอง
และจะนำไปสู่การประพฤติปฏิบัติตนทำตัวให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
2.รู้ความต้องการของตัวเองว่าจะไปไหน
หมายถึงเป้าหมายในการทำงานหรือเป้าหมายในชีวิตของเรานั้นเป็นอย่างไร คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนจะต้องมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้เสมอ ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีการตั้งเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน
หากเราไม่มีเป้าหมายเราก็ต้องฝากชีวิตทั้งหมดของเราไว้ที่ ความบังเอิญและโอกาสลมๆ แล้งๆ ซึ่งเราก็ไม่มีวันรู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไร
3.มีการวางแผนที่ชัดเจน
มีคำกล่าวหนึ่งที่เพื่อนๆ
ทุกคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า “คนที่วางแผนย่อมทำอะไรได้ไม่พลาด ส่วนคนที่พลาดมักจะทำอะไรโดยที่ไม่ยอมวางแผน” เรื่องนี้เป็นความจริงและไม่ต้องโทษใครว่าเป็นโชคร้ายหรือโชคดีเพราะมันเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
ผมยกตัวอย่างในหนังสือที่ผมเคยอ่านเล่มหนึ่งเขากล่าวไว้ว่า
อุบัติเหตุก้องโลกเกี่ยวกับเรือไททานิคที่ชนกับภูเขานํ้าแข็ง ทำให้เรือจมและมีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากมายต้องเสียชีวิตในคราวนั้น ลองตั้งสมมติฐานทั้งจากในภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ให้ดีๆแล้ว เป็นเพราะว่าไม่มีการวางแผนการเดินเรือให้ดีพอ และมีความเร่งรีบเกินไป
ในความพยายามที่จะทำสถิติเดินเรือให้เร็วที่สุด เพื่อให้เป็นข่าวใหญ่ในอีกหนึ่งวันถัดมา
ที่สำคัญมีการนำ “เรือบด” จำนวนมากออกไปจากดาดฟ้าเรือด้วยความประมาทกับคำกล่าวลือที่ว่า “เรือลำนี้ไม่มีวันจม” และรายละเอียดอื่นๆ
อีกนับไม่ถ้วนผลสุดท้ายก็ลงเอยอย่างที่หลายคนบอกว่า โชคร้ายที่เรือดันไปชนกับภูเขาน้ำแข็ง
การเดินทางใดๆ
ก็ตามหากเราต้องเดินทางไปกับคนนำทางที่ไม่มีรายละเอียดของแผนการเดินทาง ไม่รู้ว่ามีทรัพยากรหรือเสบียงที่จะสามารถจัดหาได้หรือมีแผนการที่ดี เราคงจะไม่มีวันเดินทางไปกับคนแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะมันเสี่ยงอย่างมากที่เขาจะพาเราหลงทาง หรือไปประสบกับเคราะห์กรรม เรื่องการวางแผนนี้ก็เช่นเดียวกัน มันเปรียบเสมือนการเตรียมตัวพร้อมในทุกๆด้านเลยทีเดียว
หวังว่าบทความที่นำมาฝากเพื่อนๆจะเป็นประโยชน์นะครับ
ถ้าชอบ คอมเม้น หรือ แชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมขอบคุณครับ
แด่ความสำเร็จของทุกๆท่าน
อภิชา เชาวนาศิริ
สวัสดีครับ
ใช้คุณหรือเปล่า ที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับ ฟรีๆ วิธีการทำเงินจากที่บ้านถ้าใช้ รีบด่วน ! ก่อนระบบจะเต็ม กรอกชื่อและ E-Mail ด้านล้าง
ปล.กลับไปที่ E-Mail
ของท่านเพื่อยืนยันรับข้อมูล